วัดสัตหีบ : อภิวาทหลวงพ่ออี๋ ขอบารมีเสริมมงคล
วัดสัตหีบ : อภิวาทหลวงพ่ออี๋ ขอบารมีเสริมมงคล:ยังไม่ทันจบคำ ‘ไปเที่ยวไหนดีที่สัตหีบ’ เพื่อนร่วมสนทนาก็เอ่ยขึ้นฉับพลันว่า ‘เที่ยวไหนไม่ว่า แต่ไปไหว้หลวงพ่ออี๋ (พระครูวรเวทมุนี) ก่อน เพื่อเป็นสิริมงคลดีที่สุด เพราะท่านคือ ที่เคารพศรัทธาของชาวภาคตะวันออกทุกคน’ ด้วยเหตุนี้ผมจึงได้มาหยิบดอกไม้ธูปเทียน และทองคำเปลว เพื่อสักการะหลวงพ่ออี๋ ตามคำแนะนำ ณ ละติจูด 12.663724 ลองติจูด 100.898102 ยังวัดสัตหีบ ถ.เทศบาล 9 อย่างไม่รีรอ
วัดแห่งนี้ชื่อสัตหีบ แต่ชาวบ้านล้วนเรียกติดปากว่า ‘วัดหลวงพ่ออี๋’ เพราะท่านเป็นผู้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 2442 ฉะนั้นหากถามว่า วัดสัตหีบไปทางไหน อาจได้รับคำตอบว่า ไม่มีก็ได้
สำหรับหลวงพ่ออี๋นั้น ท่านเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน และบริกรรมคาถา วัตถุมงคลของท่านล้วนเป็นที่นิยม โดยเฉพาะปลัดขิกที่พ่อค้าแม่ขายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำมาค้าขายร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมาจริงๆ นอกจากนี้ในตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรกำลังหย่อนระเบิดทำลายฐานทัพเรือนั้น มีผู้เห็นหลวงพ่ออี๋ยืนบริกรรมคาถาโบกให้ลูกระเบิดตกลงทะเลแทนที่จะทำลายบ้านเมือง แต่เหนือกว่าเรื่องเล่าน่าอัศจรรย์ ท่านคือ พระนักพัฒนา ที่สร้างทั้งโรงเรียน และสอนศิษย์ให้เป็นคนดี โรงเรียนที่หลวงพ่ออี๋สร้าง คือ บั๊กเส็งเศรษฐนุกูล แล้วถูกย้ายออกไปเป็น โรงเรียนบ้านสัตหีบ หรือโรงเรียนบ้านนา นั่นเอง
รูปหล่อหลวงพ่ออี๋ประดิษฐานให้สักการะทั้งในวิหาร และเจดีย์ 100 ปี ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ส่วนหลังนี้ มีรอยพุทธบาทจำลอง และพิพิธภัณฑ์หลวงพ่ออี๋ด้วย
การมา วัดสัตหีบ นอกจากกราบไหว้รูปเหมือนหลวงพ่ออี๋แล้ว ท่านใดที่มีอาการปวดเมื่อยก็สามารถแวะไปใช้บริการยังศูนย์อนุกรักษ์นวดแผนไทย ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวิหารได้ โดยส่วนตัวผมเองไม่ได้ใช้บริการ แต่แอบประทับใจเล็กๆ กับบริการอันน่ารักของเจ้าหน้าที่ เพราะขณะก้าวออกมาจากวิหารพบว่า เขาได้หันหน้ารองเท้าให้ชี้ออกไปด้านนอก พร้อมให้เราสวมใส่แล้วก้าวออกไปได้ทันที โดยไม่ต้องก้มหยิบ หรือหมุนตัวกลับอีก แถมเรียงเป็นระเบียบอีกด้วย
