พระนอน 55 เมตร วัดสุขุมาราม จ.พิจิตร
พระนอน 55 เมตร วัดสุขุมาราม จ.พิจิตร :จังหวัดพิจิตร ใช่เลื่องชื่อเพียงชาละวัน สำหรับเรื่องวัด เรื่องพระแล้ว ไม่แพ้ที่ใดเช่นกัน ครั้งนี้ขอพาผู้อ่านไปสักการะพระนอน หรือพระพุทธไสยาสน์ ที่ยาวถึง 55 เมตรกัน ซึ่งไม่เพียงอลังการ แต่ยังสวยงามน่าเลื่อมใสอีกด้วย
พระพุทธไสยาสน์ ที่ว่านี้ ประดิษฐานอยู่ที่ วัดสุขุมาราม ต.วังตะกู อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ถือเป็นพระนอนที่ยาว เป็นลำดับ 3 ของประเทศ ส่วนที่หนึ่ง คือ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี อ.เด่นชัย จ.แพร่ ยาว 85 เมตร และที่สอง คือ วัดสะพานเลือก อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ยาว 56 เมตร ส่วนความยาวของพระนอน วัดสุขุมารามนั้น 55.29 เมตร
เบื้องหน้าองค์พระนอน มีป้ายแจ้งไว้ว่า “พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ หลวงพ่ออนันต์ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ได้จัดสร้างขึ้น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 95,000,000 (เก้าสิบห้าล้านบาทถ้วน” ทั้งนี้ฝั่งตรงข้ามยังมีป้ายรายนามผู้ร่วมสร้าง (ซึ่งยาวมาก) อยู่ด้วย ในส่วนความเป็นมานั้น ในหนังสือคู่มือบอกไว้ดังนี้…
สาเหตุที่สร้างพระองค์ใหญ่ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากว่า เมื่อครั้งที่พระครูสุรินทร์ท่านยังมีพรรษาแรกๆ นั้น ท่านก็มีความตั้งใจว่าจะสร้างพระจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์เพื่อเป็นพุทธบูชาถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ท่านได้ตั้งใจ ที่จะสร้างจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถสร้างได้ครบตามจำนวนที่ได้ตั้งใจไว้ ท่านพระครูสุรินทร์ก็เป็นห่วงงานพระศาสนานี้ จวบจนอายุท่านพระครูสุรินทร์ก็มากขึ้นแต่ก็ยังสร้างพระได้ไม่ครบ ก็กลัวว่าจะมรณภาพไปเสียก่อนที่จะสร้างเสร็จด้วยความเป็นพระผู้ใหญ่ สัจจะบารมี ที่ได้ตั้งใจไว้ และเจ็บป่วยบ่อยๆ จนมาวันหนึ่งได้ตัดสินใจไปกราบองค์พระประธาน แล้วก็เริ่มปรารภเรื่องที่ได้ตั้งใจทำแต่ยังทำไม่สำเร็จกับองค์พระประธานวัดสุขุมาราม หลังจากกราบพระแล้วก็ได้เจริญกรรมฐานเป็นปกติเช่นทุกวัน ในคืนนั้นเอง…ท่านก็ได้นิมิตเห็นองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) ท่านมาแนะนำให้สร้างพระองค์ใหญ่ ๑ องค์ ก็ทดแทนการสร้างพระพุทธรูปทั้ง ๘๔,๐๐๐ องค์ ก็จะเป็นการชดเชยได้ หลังจากนั้นท่านพระครูสุรินทร์ก็ได้นำความมาปรึกษากับท่านพระครูปลัดอนันต์ เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) และงานก่อสร้างทั้งหมดก็เริ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน…
สำหรับประวัติวัดสุขุมาราม นั้น มีดังนี้… “ตั้งอยู่ที่บ้านวังตะกู เลขที่ 236 หมู่ที่ 11 ต.วังตะกู อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ดิน 63 ไร่ 23 ตารางวา เดิมชื่อวัดว่า “วัดใหม่วังตะกู” แต่หลวงพ่อเขียน เรียกว่า “วัดสลักแกง” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อว่า “วัดสุขุมาราม” เพื่อให้คล้องจองกับนามสกุลของโยมกำจัด สุขุมานนท์ เพราะเป็นผู้ถวายที่ดินสร้างวัด และได้รับอนุญาตสร้างวัด เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2499 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2516”
วัดสุขุมาราม ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่ม นอกจากพระนอนองค์ใหญ่แล้ว ยังมีอาคารโบราณเก่าต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2516, ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2506 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี เจดีย์พระโพธิญาณ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จังหวัดอยุธยา อีกด้วย
ที่วัดสุขุมาราม แม้ปัจจุบันผู้คนจะพุ่งเป้าไปที่องค์พระนอน แต่ ณ วัดแห่งนี้ ไฮไลท์ของคนในพื้นที่ คือ หลวงพ่อเขียน
หลวงพ่อเขียน ธมมฺรักขิโต หรือ หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร (อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร) เป็นเกจิอาจารย์ที่เป็นที่นับถือของคนพิจิตร และบุคคลทั่วไป วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์ ทั้งตลอดชีวิตที่ประพฤติปฏิบัติในทางกรรมฐานอย่างเคร่งครัด มีอายุยืนถึง 108 ปี
สำหรับหลวงพ่อเขียน ท่านเกิดเมื่อ วันเสาร์ เดือน 4 ปีขาล พ.ศ. 2399 บ้านตลิ่งชัน ตำบลชอนไพร อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ท่านเคยจำพรรษา และเป็นเจ้าอาวาสที่วัดสุขุมาราม ตลอดการบวช ท่านย้ายไปศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่เพียงมีวิชาอาคมเก่งกล้า แต่หลวงพ่อเขียนยังเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย ผู้คนจึงเคารพศรัทธาท่านมาก
ฉะนั้นภายในวัดสุขุมารามจึงมีรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อเขียนประดิษฐานอยู่มากมาย ทั้งยังมีวิหารหลวงพ่อเขียน อีกด้วย
การเดินทางมาวัดสุขุมาราม เริ่มจากอำเภอบางมูลนาก ใช้ทางหลวงแผ่นดินบางมูลนาก-วังงิ้ว ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร อยู่บริเวณตลาดนอกวังตะกู