สมบูรณ์แบบที่สุด 5 ศิลปินชื่อดัง ปั่น-กบ-แมว-เมย์-ออย ร่วมน้อมรำลึกถ่ายทอดบทเพลงพระราชนิพนธ์ในงานคอนเสิร์ต ‘H.M. Blues’

สำเร็จไปอย่างงดงามกับ H.M. Blues’ คอนเสิร์ตเพื่อน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ที่จัดขึ้นโดย ‘เนชั่น กรุ๊ป’ (Nation Group) ร่วมกับพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชน ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ในเย็นวันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 โดยที่รายได้ทั้งหมดจากการจําหน่ายบัตร ไม่หักค่าใช้จ่าย ได้นําไปมอบให้แก่สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาและวิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อสนับสนุนการศึกษาด้านดนตรี

ความพิเศษในคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่เพียงแค่การหยิบเอาบทเพลงแจ๊สที่ทรงพระราชนิพนธ์มาแสดงให้ผู้เข้าชมได้น้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของรัชกาลที่ ๙ เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอการแสดงดนตรีแจ๊สอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งคอมโบ และบิ๊กแบนด์ จากวงแจ๊สออร์เคสตรามหาวิทยาลัยรังสิต (RSU Jazz Orchestra) ภายใต้การควบคุมของ รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ คณบดีวิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต และศิลปินศิลปาธร

เสียงดนตรีในคอนเสิร์ตเริ่มต้นด้วยบทเพลง ‘ยามเย็น’ ฉบับบรรเลงโดยวงแจ๊สออร์เคสตราที่นำโดย รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ เป็นฉบับที่คึกคัก สนุกสนาน และในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และกินใจ เปรียบเสมือนบทเพลงที่ชวนผู้ชมมารู้จักกับเสียงดนตรีของวงแจ๊สออร์เคสตราจากมหาวิทยาลัยรังสิต  ก่อนจะต่อด้วย ‘แสงเดือน’ ที่ได้ผสานเข้ากับการขับร้องของ ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว ตามมาด้วย ‘Echo’ บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 41 ที่เป็นหนึ่งในบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่พระองค์ได้ทรงประพันธ์ทำนองและเนื้อร้องภาษาอังกฤษด้วยตัวของพระองค์เอง โดยมี เมย์-ฝนพา ปราโมช ณ อยุธยา เป็นผู้ขับร้อง และเดี่ยวเปียโนโดย ดร.โสภณ สุวรรณกิจ

เมื่อสิ้นสุดลงก็เดินหน้าสู่บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับต่อไปอย่าง ‘ภิรมย์รัก’ หรือ ‘A Love Story’ จากชุดกินรีสวีท โดยมี กบ-เสาวนิตย์ นวพันธ์ มาเป็นผู้ขับร้อง โดยเธอก็ได้เผยว่าในคอนเสิร์ตนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เธอได้มีโอกาสร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์นี้ ทั้งยังเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ตัวของเธอเองชื่นชอบที่สุด ก่อนจะต่อด้วยเพลง ‘อาทิตย์อับแสง’ จากน้ำเสียงเสียงของ ออย-กุลจิรา ทองคำ

ตามมาด้วยบทเพลงบรรเลงอย่าง ‘ศุกร์สัญลักษณ์’ หรือ ‘Friday Night Rag’ ที่มาพร้อมเสียงกีตาร์ของ แมว-จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ที่ผสมผสานทั้งความเป็นบลูส์และแจ๊สเข้าด้วยกัน ที่นับเป็นจุดที่ขยับจากความไพเราะนุ่มละมุนไปสู่ความสนุกสนานและจังหวะที่ชวนขยับเขยื้อน โดยเฉพาะการโซโล่และด้นสดจากทั้ง แมว จิรศักดิ์ วงแจ๊สออร์เคสตรา ซึ่งพาให้ทั้งโรงละครต่างพากันปรบมือให้

ก่อนจะเข้าสู่ช่วงต่อมาโดยเริ่มต้นที่บทเพลงป็อป-ร็อกของ แมว จิรศักดิ์ อย่าง ‘เยาวราช’ ที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์แจ๊สเพื่อคอนเสิร์ตนี้โดยเฉพาะ โดยมีวงแจ๊สออร์เคสตราร่วมบรรเลงไปพร้อม ๆ กัน ก่อนจะเดินหน้าไปถึงบทเพลงสากลแนวแจ๊สสแตนดาร์ดอย่าง ‘What a Difference a Day Makes’ โดยมี ออย กุลจิรา เป็นผู้ขับร้อง

ก่อนจะต่อด้วยบทเพลงสากลลำดับถัดไป ‘It Had to Be You’ โดยมี ปั่น ไพบูลย์เกียรติ ขึ้นมาขับร้องอีกครั้ง และต่อด้วย ‘On the Sunny Side of the Street’ ที่มาพร้อมเสียงร้องของ เมย์ ฝนพา ก่อนจะไปถึงอีกหนึ่งบทเพลงที่ผู้ชมหลายคนน่าจะคุ้นหูกันดีอย่าง ‘Fly Me to the Moon’ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านเสียงของ กบ เสาวนิตย์

ในช่วงสุดท้ายก็ได้เริ่มต้นด้วยที่บทเพลงที่ชาวไทยต่างคุ้นหูและยังเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์อันเป็นชื่องานคอนเสิร์ตในครั้งนี้อย่าง ‘ชะตาชีวิต’ หรือ ‘H.M. Blues’ และโดยเป็นการขับร้องโดย ปั่น ไพบูลย์เกียรติ บรรเลงกีตาร์โดย แมว จิรศักดิ์ ผสานเข้ากับวงแจ๊สคอมโบมหาวิทยาลัยรังสิต (RSU Jazz Combo) ที่มาพร้อมกับท่อนโซโล่จากทั้งทรอมโบน ทรัมเป็ต และกีตาร์ ที่ได้สยายทั้งความเป็นแจ๊สและความเป็นบลูส์ออกมาได้อย่างถึงขั้วอารมณ์

ก่อนจะต่อด้วยอีกหนึ่งบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ใครหลายคนย่อมรู้จักดี ‘ในดวงใจนิรันดร์’ หรือ ‘Still On My Mind’ ด้วยเสียงร้องของ เมย์ ฝนพา โดยที่มีวงแจ๊สออร์เคสตรามหาวิทยาลัยรังสิตกลับมาบรรเลงดนตรีต่ออีกครั้ง ต่อด้วย ‘Old Fashioned Melody’ ที่ ออย กุลจิรา ขึ้นมาทำหน้าที่เป็นผู้ขับขานเสียงร้อง จนมาถึง ‘ดวงใจกับความรัก’ ที่ กบ เสาวนิตย์ ได้ขึ้นเวทีมาบรรเลงเสียงร้องของเธออีกครั้ง

ภายหลังจากนั้นก็เป็นช่วงที่ทั้งนักร้องและนักดนตรีในครั้งนี้ได้ขึ้นเวทีพร้อมกันเพื่อกล่าวขอบคุณผู้ชม และกล่าวความรู้สึกและความในใจของแต่ละคนเกี่ยวกับความประทับใจและประสบการณ์ส่วนตัวที่มีต่อบทเพลงพระราชนิพนธ์ว่าเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขาอย่างไรบ้าง รวมไปถึงความรู้สึกของแต่ละคนที่ได้มีส่วนร่วมในงานคอนเสิร์ต H.M. Blues ในครั้งนี้ เมื่อนักร้องและนักดนตรีได้กล่าวขอบคุณและบอกลาเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เสียงดนตรีจาก ‘ยามเย็น’ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง โดยที่นักร้องทั้งห้าคนได้ร่วมกันร้องเคียงคู่ไปกับเสียงดนตรีจากวงแจ๊สออร์เคสตราของมหาวิทยาลัยรังสิต ผสานกันจนกลายเป็นบทเพลงส่งท้ายให้กับยามเย็นที่สวยงามและทรงคุณค่าจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่กลั่นมาจากพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ที่จะดังกึกก้องในโลกดนตรีและหัวใจของปวงชนชาวไทยไปอีกนานแสนนาน


อ่านเรื่องอื่น ๆ

หน้าแรก

เฟซบุ๊กแฟนเพจ กลั่นแกล้ง

“ดีพร้อม” ขานรับนโยบาย “เอกนัฏ” สนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ เชื่อมโยงอัตลักษณ์แฟชั่นไทย เสริมแกร่งศักยภาพผู้ประกอบการไทยสู่ระดับสากล ดันเศรษฐกิจโตกว่า 30 ล้านบาท

รู้จักคุณหมอวีรกานต์ EMMA CLINIC ศัลยแพทย์ตกแต่งเทคนิคจมูกโอเพ่นกระดูกซี่โครง ผู้มี Passion ปั้นศิลปะความสวยบนใบหน้า

คุณหมอกวาง วาสิตา ศัลยแพทย์หนึ่งเดียวจากประเทศไทย ปลื้มเข้าร่วมประชุมงาน PRS KOREA 2024 กระทบไหล่หมอจากทั่วเอเชีย

You may also like...