ร้อยละ 91 เด็กไทยโดนแกล้ง และคิดจะเอาคืน ปัญหาเด็กโดน กลั่นแกล้ง ไทย เป็นอันดับ 2 ของโลก
ผ่านวันเด็ก 2563 แล้ว ใครพาตัวเล็กของบ้านไปเที่ยวไหนบ้าง หรือใครยังเที่ยววันเด็กกันไม่เสร็จ วันที่ 11 ที่ผ่านมาเป็นวันเด็กแห่งชาติ 2563 แต่ก่อนหน้านั้น คือวันที่ 9 มกราคม เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ร่วมกับศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เขาได้จัดเสวนาเกี่ยวกับเด็ก ชื่อหัวข้อว่า “BULLYING” กลั่นแกล้ง ความรุนแรงที่รอวันแระทุ” ก็มีนักวิชาการหลายคนแหละมาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาการกลั่นแกล้งในปัจจุบัน รวมๆ พบว่า การกลั่นแกล้งในเด็กของประเทศไทย เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น
เด็กร้อยละ91เคยโดยกลั่นแกล้ง
สถิติในงานเสวนาบอกว่า เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม ได้สำรวจเด็กอายุ 10 – 15 ปี จาก 15 โรงเรียน พบ ร้อยละ 91.79 เคยถูกบูลลี่ (Bullying) หรือโดนกลั่นแกล้ง ได้แก่ โดนตบหัว, ล้อชื่อพ่อชื่อแม่, พูดจาเหยียดหยาม, นินทา, ล้อปมด้อย
การถูกกลั่นแกล้งโดยโดนตบหัว การสำรวจบอกว่า มีถึง 62.07% รองลงมา คือ ล้อชื่อพ่อชื่อแม่ 43.57% ผู้อาวุโสหน่อยอ่านถึงตรงนี้ อาจเผลอยิ้ม “คลาสสิค จากรุ่นสู่รุ่น ไม่เปลี่ยนแปลง” จริงๆ แล้วเปลี่ยนแปลงครับ เพราะการถูก กลั่นแกล้ง เป็นปัญหาใหญ่มากในปัจุบัน ผู้ถูกแกล้งมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้าสูง และจากการสำรวจนี้พบว่า ร้อยละ 42.86 มีความคิดจะเอาคืน ซึ่งเราเองก็เห็นข่าวเอาคืนมาแล้วหลายข่าว ถึงชีวิตก็มากมี
อ่านเรื่องอื่น ๆ
ซาแซงแฟน เมื่อความคลั่งไคล้กลายเป็นกลั่นแกล้ง
กลั่นแกล้ง(Bullying) ภัยร้ายที่มากกว่า แค่หยอกขำๆ
ผลร้ายที่ตามมาของการกลั่นแกล้ง