เมื่อสังคมรุมข่มขืนฉัน ทางออก กลั่นแกล้ง ว่าด้วยการถูกกระทำซ้ำ
เมื่อสังคมรุมข่มขืนฉัน ทางออก กลั่นแกล้ง ว่าด้วยการถูกกระทำซ้ำ
“ตอนที่ถูกข่มขืนเรานึกว่านั่นคือนรกแล้ว แต่นรกที่แท้จริงเกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก”
เรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่ง ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางเมื่อวันหนึ่งเธอออกมาเปิดเผยว่า เธอเคยถูกละเมิดทางเพศ และถูกข่มขืนกระทำชำเราโดยเพื่อนบ้านและคนในครอบครัว ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 5 ปี
ตอนนั้นเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งนั้นคืออะไร คิดว่าเป็นการเล่นกัน คิดว่าบ้านอื่น ครอบครัวอื่นเขาก็มีแบบนี้แหละ ทีแรกตอนที่ลุง ทำเรา เรากลัวมาก เจ็บ มีเลือดไหล ก็วิ่งร้องไห้ไปหาแม่ ไปบอกแม่ว่าลุงทำร้ายเราแบบนี้ ๆ ตอนนั้นแม่ทำหน้าตกใจมาก พาเราเข้าไปห้องน้ำ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรา พาเราออกไปข้างนอก ไปร้านไอติม สั่งไอติมให้เราถ้วยใหญ่ แล้วพยายามพูดกับเราว่า อย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังนะ มันไม่ดี ลุงจะเดือดร้อน จะต้องโดนจับติดคุก ลุงดีกับเราดูแลเรามาตลอด เขาไม่ได้ตั้งใจทำร้าย
ตอนนั้นเราก็เชื่อแม่ แต่เรากลัวมาก เราไม่กล้าเข้าใกล้ลุงอีก แต่เขาก็ยังข่มขืนเราทุกครั้งที่มีโอกาส พอเราเข้า ม. 1 มีเพื่อนบ้านแถวนั้นที่กินเหล้าวงเดียวกับลุงอีกสองคน ที่ลุงชวนมาร่วมข่มขืนเราด้วยตอนที่แม่ไม่อยู่ แล้วเขาก็ถ่ายคลิปเอาไว้ ขู่เราว่าถ้าเราเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เขาจะเอาคลิปที่ถ่ายไว้ไปโพสต์ประจาน
ตอนนั้นเราเครียดและกลัวมาก เราพยายามเล่าให้แม่ฟังอีก แต่แม่ก็พูดเหมือนเดิม บอกว่าเรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ บางทีก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนตอนเราขึ้น ม. 2 อายุ 13 เราเข้าวัยรุ่นแล้ว และเพื่อนบ้านที่มาข่มขืนเรา เอาเรื่องนี้ไปพูดทำนองว่าเราขายตัว ทำให้พวกเพื่อนและคนอื่น ๆ ที่โรงเรียนเริ่มนินทา และล้อเลียนเราในทางที่ไม่ดี ตอนนั้นเราอายจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง อยากตายให้พ้น ๆ เลยพยายามแขวนคอตาย แต่แม่มาช่วยไว้ทัน เราบอกแม่ว่า ถ้าแม่ช่วยเราไม่ได้ เราก็จะช่วยเหลือตัวเอง เราจะตาย จะได้จบ ๆ เรื่องนี้เสียที แม่เราร้องไห้แต่ก็ยังไม่ยอมทำอะไรเพื่อเราเลย ในที่สุดเราเลยมาเล่าให้ครูฟัง แล้วครูก็พาไปขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิ แล้วเขาก็พาเราย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่มูลนิธิเพื่อให้เราปลอดภัย
พอเรื่องของเราถูกเปิดเผยกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา คนรอบข้างเราก็ปฏิบัติตัวต่อเราเปลี่ยนไปทันที ตอนที่ถูกข่มขืนเรานึกว่านั่นคือนรกแล้ว แต่นรกที่แท้จริงเกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก
ทั้งในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ของเรา มีแต่คนมาคอมเมนต์ด่า ล้อเลียน บอกว่าเราอ่อยหรือเปล่า บางคนก็อินบอกซ์มาถามราคาค่าตัว มาพูดลามกใส่ หลายคนพูดในทางว่า ถ้าเราไม่เต็มใจทำไมยอมให้เขาทำมาได้ตั้งหลายที แสดงว่าชอบ พวกเพื่อนของลุงก็มาเข้าข้างลุง หาว่าเราใส่ร้ายลุง บอกว่าลุงเป็นคนดีไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก
บรรยากาศในห้องเรียนเปลี่ยนไปเลย เพื่อนบางคนก็บอกว่า ถ้าเป็นเขาเขาคงไม่กล้าโผล่หน้ากลับมาเรียนหรอก เรื่องน่าอายแบบนี้ทำไมกล้าพูด บางคนก็เข้ามาถามว่าตอนที่ทำรู้สึกอย่างไรบ้าง เสียวไหม มีอารมณ์ด้วยหรือเปล่า นอนกับใครบ้าง กี่คน ชอบคนไหนมากที่สุด ได้ตังครั้งละเท่าไหร่ เราโดนล้อ โดนเสียดสีด้วยคำพูด โดนตั้งฉายาลามก โดยส่วนใหญ่คนที่พูดแบบนี้ใส่จะเป็นผู้หญิงด้วยกันมากกว่าผู้ชาย
ที่โหดสุดคือมีครูในโรงเรียนคนหนึ่ง ขึ้นสเตตัสทำนองว่า ให้ฟังความสองข้าง ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง บอกว่าเด็กผู้หญิงบางคนก็มีพฤติกรรมทางเพศไม่ปกติ แล้วก็มีคนมาคอมเมนต์เข้าข้างครูคนนั้นเยอะมาก แต่ที่ด่าก็มี ตั้งแต่วันที่เราขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิ ผ่านมาหลายปี คดียังไม่จบ แต่เราไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตที่เดิมได้แล้ว แม่เราก็ไม่เคยมาเยี่ยมซึ่งเราเจ็บปวดมาก
เราคุยกับนักจิตวิทยา บำบัดทางจิต และกินยาเพื่อปรับสมดุลเคมีสมอง เพราะเรามีอาการหวาดกลัวและซึมเศร้า นอนไม่หลับ เขาบอกเราว่า เราเป็นมนุษย์ที่มีคุณค่า เราไม่ควรเอาคุณค่าตัวเองไปผูกติดกับความเลวร้ายในอดีตที่เราได้รับ ให้มองต่อไปข้างหน้า และถ้าเมื่อไหร่รู้สึกอับอาย ให้บอกตัวเองว่า เราเป็นเหยื่อ เป็นคนที่ถูกทำร้าย เราไม่ใช่คนที่ควรจะอับอาย คนที่ควรอายคือคนที่ทำเลวกับเรามากกว่า
ในสังคมของเรา มีคนจำนวนมากที่มองว่าเหยื่อที่ถูกกระทำทางเพศมีส่วนในความผิดนั้น ตบมือข้างเดียวไม่ดัง โดยคนที่กลั่นแกล้ง ทำร้าย ซ้ำเติมเหยื่อ มักมีชุดความคิดที่ว่าถ้าเหยื่อไม่ไปยั่วยุทางเพศก่อนเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว คดีทางเพศส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากคนใกล้ตัวโดยเหยื่อมักไม่มีความเชื่อมโยงกับพฤติกรรมยั่วยุทางเพศเลย โดยเฉพาะในเด็กที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้การถูกรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากผู้ใหญ่และคนรอบข้างที่ไม่เชื่อและไม่พยายามช่วยเหลือ ปกป้อง นับเป็นการทารุณทางจิตใจที่โหดร้ายเสียยิ่งกว่าการทำร้ายร่างกายเสียอีก
อย่างไรก็ดี หากเราพบเห็นการกระทำทารุณ ความรุนแรงในครอบครัว หรือละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี สามารถแจ้งข้อมูลและขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคมหมายเลขโทรศัพท์ 1300 เพื่อให้ทุกความเจ็บปวดของเหยื่อได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาอย่างรวดเร็วที่สุด จบเรื่อง เมื่อสังคมรุมข่มขืนฉัน ทางออก กลั่นแกล้ง ว่าด้วยการถูกกระทำซ้ำ
โดย นทธี ศศิวิมล
อ่านเรื่องอื่น ๆ
แบรนดอน รายัต เด็กหนุ่มที่ถูกกลั่นแกล้งจนต้องฆ่าตัวตาย เพราะหน้าตาดี
เสรีภาพในการด่า / ก่อนจะสนุก ฉุกคิดสักนิด ตะรางรออยู่
ทำอย่างไรเมื่อ ลูกชอบแกล้งเพื่อน