เอก อิสระ ทำอะไรก็โดน บูลลี่

‘ผมเคยโดนหลอกไปร้องเพลง บอกว่าจะให้ค่าตัว ผมร้องเพลงไปเกือบ 20 เพลงแล้วก็โดนเบี้ยวค่าตัว สรุปได้โค้กมา 2 ขวดพร้อมน้ำแข็ง คือมันก็เสียใจที่โดนหลอก โดนแกล้ง โดน บูลลี่ แต่กลายเป็นว่าที่ผมโดนหลอกไม่มีใครพูดถึง แต่เอามาฮากันที่ผมได้โค้กกับน้ำแข็งมา กลายเป็นคนตลกในสายตาคนรอบข้าง’

“ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ผมเป็นคนออกแนวซื่อ ๆ ไม่ค่อยไปอะไรกับใคร แต่ก็กลายเป็นคนที่ถูกล้อ ถูกหัวเราะเยอะ เอาเรื่องของเรามาเป็นเรื่องขำ ๆ เล่าต่อ ๆ กันไป แล้วก็หัวเราะเราทุกทีที่เห็นหน้า แล้วก็ถูกตั้งฉายาจากสถานการณ์ที่เรากำลังแย่ ๆ

“ตอนเด็ก ๆ ผมอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ผมไปแข่งวิ่งในกีฬาของตำบล โรงเรียนส่งนักกีฬาไป แล้วมีครูบรรจุใหม่ มาจากกรุงเทพฯ ฟังภาษาอีสานไม่ค่อยเข้าใจ ผลการแข่งคือชนะ หลังจากแข่งเสร็จตอนนั่งท้ายรถกระบะกับเพื่อน ๆ กลับโรงเรียน ผมก็มีอาการหน้ามืดจะเป็นลม เพื่อนก็บอกครูครับ ๆ เอกหวิ่ง ๆ ครูเข้าใจว่า หวิ่ง คือ วิ่ง เลยถามอ้าวไม่เหนื่อยเหรอ เพิ่งจะเล่นกีฬามาทำไมจะลงไปวิ่ง ครูเข้าใจผิด เพราะ หวิ่ง ภาษาอีสาน หมายถึง เป็นลม เลยถูกล้อเรียกชื่อ เอกหวิ่ง จนกลายมาเป็นฉายาเฉยเลย ทั้งโรงเรียนเรียก เอกหวิ่ง กลายเป็นว่าผมไปแข่งวิ่งแล้วเป็นลม ทั้ง ๆ ที่แข่งเสร็จแล้ว ชนะแล้ว มาเป็นลมตอนกลับ เลยถูกล้อเฉยเลย ชัยชนะที่ได้มาไม่มีใครพูดถึง

Image by Gerd Altmann from Pixabay

“ตอนอายุประมาณ 14-15 ปี ผมเคยโดนหลอกไปร้องเพลง บอกว่าจะให้ค่าตัว ผมร้องเพลงไปเกือบ 20 เพลงแล้วก็โดนเบี้ยวค่าตัว สรุปได้โค้กมา 2 ขวดพร้อมน้ำแข็ง คือมันก็เสียใจที่โดนหลอก โดนแกล้ง แต่กลายเป็นว่าที่ผมโดนหลอกไม่มีใครพูดถึง แต่เอามาฮากันที่ผมได้โค้กกับน้ำแข็งมา กลายเป็นคนตลกในสายตาคนรอบข้าง แกล้งได้ หัวเราะเยอะได้ คือผมก็เสียใจ ก็อาย แต่ไม่มีใครเห็นความสำคัญของอารมณ์ หรือความรู้สึกของผมเลย

“ตอนที่เป็นนักร้องใหม่ ๆ ตอนอายุ 18- 19 ปี ไปร้องเพลงตามงานต่าง ๆ ร้องเพลงลูกทุ่งสนุก ๆ ดนตรี หางเครื่อง ตัวผมเองเต้นกันสนุกเลย กำลังร้องเพลงอย่างเมามัน คนดูหน้าเวทีร้องตะโกนขอจับมือ ผมก็ร้องเพลงไป มือหนึ่งถือไมค์ มือหนึ่งเอื้อมไปจับ กลายเป็นว่าถูกดึงไปข้างล่าง โดนจับเป้าแทน มือกีต้าร์กับมือเบสลงไปช่วยดึงขึ้นมา เครียดด้วย เจ็บด้วย รู้สึกโชคดีที่เวทีไม่สูง แต่ไม่มีใครสงสาร ไม่มีใครเป็นห่วง กลายเป็นเรื่องฮา แล้วถูกเอามาล้อ บูลลี่ เหมือนเดิม

“หลาย ๆ เรื่องในชีวิตที่ผมรู้สึกแย่ ๆ ถูกเอามาเป็นเรื่องล้อเลียน ถูกเอามาเล่าขำ ๆ บ่อยครั้งที่เอาเก็บกลับมาคิดเลยว่าทำไมเป็นแบบนี้ หรืออาจจะเป็นที่ผมเป็นคนเฮฮา ยิ้มง่าย ไม่ถือโทษโกรธใคร ก็ดูง่าย ๆ ในสายตาคนอื่น ใครจะพูดว่าไรก็ได้ เมื่อก่อนก็นึกน้อยใจอยู่บ่อย ๆ นะครับ ว่าทำไมทุกคนเห็นเรื่องน่าอายของเราเป็นเรื่องตลก แล้วเอามาพูดกับคนอื่น ๆ ให้เราต้องอายซ้ำอายซาก แต่ที่สุดแล้วผมก็ค้นพบว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา

“การที่ถูกคนต่อว่า ล้อเลียน บูลลี่ ในสิ่งที่ผิดพลาด ตั้งฉายาให้ในทางที่เสียหาย โดยที่ไม่สามารถแก้ตัวได้เพื่อความสนุก เพื่อความสะใจ ผมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่ถูกกระทำ แต่ถ้าเลือกที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องปล่อยไปตามวันและเวลา ให้เรื่องเหล่านั้นเลือนไปเอง แล้วก็หาแนวทางแก้ไขกันไป อย่างผมก็โดนมาเยอะ พอเรื่องนี้หายไปเรื่องใหม่ก็มา ฉายานี้เลือน ๆ ไป ฉายา ใหม่ก็มา แต่ที่สุดแล้วเมื่อเราทุ่มเทเวลาให้กับการทำงาน มองไปข้างหน้า เรื่องเหล่านั้นก็กลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่หายไปในที่สุด เพราะเป้าหมายในชีวิตของเราสำคัญกว่า”

Image by Gerd Altmann from Pixabay

เอก อิสระ

ศิลปินยุค 90 มีผลงานเพลงหลายอัลบั้ม คือ ฟ้องโลก, สงครามรัก, นางฟ้าหรือแม่มด, หมอลำสัญญาที่คาใจ, สตริงบ้านนอก จากนั้นเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน แล้วกลับมาทำ “สวนไผ่เอกอิสระ” ที่อุบลราชธานี ปัจจุบันทำกิจการร้านแว่นตา  “ร้านแว่นเลข 11”


อ่านเรื่องอื่น ๆ

หน้าแรก

เฟซบุ๊กแฟนเพจกลั่นแกล้ง

รันทดมาราธอน บูลลี่ ที่ยาวนาน

กลั่นแกล้ง ผ่าน Wall (โทร.หาฉันสิหากคุณต้องการ)

แข็งมาแข็งกลับ บางครั้งก็หักไม่เป็นท่า : กลั่นแกล้ง ไม่ใช่เรื่องสนุก

You may also like...