ท่านเวาะห์ โต๊ะกือปะ กับคำบูลลี่ ช้างขี่ช้าง และคำขอโทษของภาวะผู้นำ

วันนี้แอดไปร่วมงานทอดกฐินของวัดในจังหวัดปัตตานี วัดเทพนิมิต ณ อำเภอปะนาเระ เป็นวัดที่แต่ละปีจะจัดขบวนช้างแห่กฐินอย่างคึกครื้น สวยงาม สวยทั้งภาพ และวัฒนธรรม เพราะช้างเป็นของชาวมุสลิม และเจ้าอาวาสของวัดนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นที่เคารพของชาวบ้านทั้งพุทธและมุสลิม ฉายา ท่านเวาะห์ โต๊ะกือปะ “พระเรวัตร ถิรสัทโธ” ทำไมท่านจึงมีสมญานามเช่นนี้ไว้เฉลยท้ายเรื่อง ส่วนที่หยิบมาเล่า เพราะเกิดคำบูลลี่เล็ก ๆ ขึ้น

วันนี้มีช้างมาร่วมขบวนแห่ถึง 16 เชือก แต่ละเชือกจะมีเจ้าภาพนั่ง ท่านเจ้าอาวาสก็ทยอยเรียกตามรายชื่อเรื่อย ๆ แต่เพราะช้างเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ ชาวบ้านที่มาร่วมบุญกฐินต่างก็ห้อมล้อมถ่ายภาพช้างกันมากมาย จนช้างตื่น กลัว ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่ บางเชือกก็ไม่ยอมนั่ง จน ท่านเวาะห์ หลุดโมโหผุดผรุสวาท ต่อผู้หญิงคนหนึ่งว่า “บอกให้หลบเดี๋ยวช้างก็แทงของสงวนให้หรอก” แต่พูดจบไม่มีใครโกรธท่านเลย ฝ่ายที่ถูกด่ายังรีบหนีออกมาเลย เพราะรู้ตัวว่าไปขวางจริง ๆ

ช้าง 16 เชือก ใช้เวลามากเอาการกว่าจะให้เจ้าภาพขึ้นหลังได้ครบ ท้านเวาะห์ประกาศเป็นระยะ ๆ ว่าท่านเหนื่อย อดหลับอดนอนติดต่อกัน 5 วัน อาจจะฉุนเฉียวบ้าง ขอร้องอย่าสร้างคามวุ่นวาย เพราะถ้ามากเรื่องก็จะควบคุมช้างยาก ชาวบ้านก็เชื่อแหละ แต่พอผ่านไปสัก 5 นาที ก็ออกันใหม่

ทีนี้มาหลุดคำบูลลี่ที่สอง เมื่อหญิงร่างอ้วนคนหนึ่งขึ้นนั่งบนหลังช้าง แล้วเจ้าอาวาสก็พูดขึ้น “นี่ไงช้างขี่ช้าง” เรียกเสียงหัวเราะครืนให้ผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมาก ทีแรกแอดคิดว่าเจ้าตัวซึ่งถูกบูลลี่จะโกรธ เพาะสมัยนี้ต่อให้เป็นพระก็เถอะ หากพูดไม่เข้าหูญาติโยมด่ากลับเอาได้ง่าย ๆ แต่เปล่าเลย ผู้หญิงคนนั้นกลับหัวเราะยอมรับ แล้วช้างที่เธอนั่งก็ไปไม่ได้เพราะเธอนั่งร่วมกับคนอื่นอีก 2 คน เธอต้องลงแล้วเข้าไปขอเจ้าอาวาสว่า ขอขึ้นเชือกใหม่ได้ไหม ท่านก็จัดให้

เมื่อช้างทั้ง 16 เชือกพร้อมเคลื่อนขบวน ท่านเวาะห์ ก็พูดผ่านไมค์ ออกเครื่องขยายเสียงขึ้นว่า การควบคุมช้างยาก ท่านเองก็เหนื่อย บางครั้งถ้าไม่ใช้คำรุนแรงชาวบ้านก็ไม่มีใครฟัง เตือนแล้วก็ยังออมาอีก เกิดช้างตื่นขึ้นมาจะเป็นอันตรายได้ ฉะนั้นหากคำใดที่ทำให้ขุ่นเคืองก็ต้องขอโทษ หลายคนย่อมมีหลายใจ การจะทำสิ่งใดให้สำเร็จต้องรวมเป็นใจเดียว มาแข่งกันออกเสียงเจี้ยวจ้าวงานจะไม่ราบรื่น อย่าว่าแต่หลายคนเลย บางคน คนเดียวแท้ ๆ ยังหลายใจได้…

ประโยคสุดท้ายเรียกเสียงฮาให้ญาติโยมอีกครั้ง

จากเรื่องที่แอดเจอ และเล่ามา จะเห็นได้ว่า บางคำที่เราคิดว่าเป็นการบูลลี่ แต่หากออกมาจากคนบางคนที่มีจิตใจอันบริสุทธิ์คำนั้นแทบไม่กระทบจิตใจเลย และคนที่พูดเองแม้จะหวังดีอย่างไร หากมีคำขอโทษตามมาก็จะยิ่งให้แฮปปี้เอ็นดิ้งยิ่งขึ้น สำหรับประวัติคร่าว ๆ ของท่านเวาะห์ โต๊ะกือปะ นั้น เพราะสมัยเป็นฆราวาสท่านมักพกขวานด้ามเล็กติดตัวอยู่เสมอ ขวานภาษามลายูเรียกว่า “กือปะ” ส่วนโต๊ะ ก็ใช้เรียกผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ นอกจากท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนแล้ว ยังเป็นเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่สายมูนิยมเช่าหาเครื่องราง โดยเฉพาะเครื่องรางรูปขวาน


อ่านเรื่องอื่น ๆ

หน้าแรก

เฟซบุ๊กแฟนเพจกลั่นแกล้ง

เทวดาแกล้ง

เมื่อผมโดนแกล้งระหว่างถูกจับ เมาแล้วขับ

แผลของการ กลั่นแกล้ง เจ็บทั้งสองฝ่าย

You may also like...